19 มกราคม 2552

ตรุษจีนมาแล้ว



วันที่ 26 เดือน มกราคม 2552 ตรงกับขึ้นหนึ่งค่ำ เดือนหนึ่ง หรือ วันตรุษจีน หรือวันขึ้นปีใหม่ของชาวคนไทยเชื้อสายจีนจะมีพิธีกรรมการเตรียมตัวก่อนเพื่อต้อนรับปีใหม่ที่สมบูรณ์แบบ ก่อนอื่นจะต้องทำความสะอาดบ้านเรือนและซ่อมแซมบ้านให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ก่อนที่จะเข้าสู่พิธีกรรมการไหว้ตามประเพณี .....มีขั้นตอนดังนี้
  • วันจันทร์ที่ 19 ม.ค 2552 ดิถี24 ค่ำเดือน 12 จีน เป็น วันไหว้ส่งเทพเจ้ากลับสวรรค์ ของสำคัญในการไหว้ ได้แก่ ขนมแป้งข้าวเหนียวพร้อมกับน้ำตาลทรายแดง
  • วันเสาร์ที่ 24 ม.ค 2552 ดิถี 29 ค่ำ เดือน 12 จีนเป็นวัน จับจ่าย ซื้อข้าวของเตรียมไหว้เจ้า
  • วันอาทิตย์ที่ 25 ม.ค 2552 ดิถี30 ค่ำ เดือน 12 จีน เป็น วันไหว้บรรพบุรุษและไหว้วิญญาณไร้ญาติสัมภเวสี เป็นการทำบุญทำทานส่งท้ายปีเก่าเพื่อต้อนรับปีใหม่......ในวันรุ่งขึ้น
  • วันจันทร์ที่ 26 ม.ค 2552 ดิถี 1 ค่ำ เดือน 1 จีนเป็น วันถือ เป็นวันแรกของเทศกาลขึ้นปีใหม่ หรือ วันตรุษจีน จะทำการไหว้เทพเจ้าโชคลาภ ไฉซิ้งเอี๊ย การไหว้ของแต่ละครอบครัวจะไม่เหมือนกัน (แตกต่างกันตามปีเกิดของเจ้าของบ้าน ทิศทางของอาคารบ้านเรือนนั้น)

เพื่อก่อให้เกิดความเป็นสิริมงคล ร่ำรวยเงินทอง ตลอดปีใหม่ และในวันนี้เป็นวันที่ให้ลูกหลาน ได้กราบไหว้ บิดามารดา ปู่ย่า ตายาย ผู้มีพระคุณ เพื่อเป็นการแสดงความกตัญญูและแสดงความนอบน้อม ของสำคัญในการไหว้ได้แก่ ส้มสีทอง ซึ่งหมายถึง ความสวัสดีมหามงคล จำนวน 4 ผล (ตามแบบชาวจีนเตี่ยจิว หรือ แต้จิ๋ว) ช่วงเวลาการไหว้เทพเจ้าแห่งโชคลาภ ที่ดีที่สุดของปีนี้อยู่ระหว่างเวลา 03.00-05.00 น. ซึ่งเป็นช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 26 ม.ค.

ทั้งนี้ชาวจีนเตรียมจัดของไหว้เทพเจ้าแห่งโชคลาภอย่างพิถีพิถ้น โดยแบ่งเป็น เนื้อสัตว์, ผลไม้, ขนมหวาน, กับข้าวคาว, กับข้าวเจ อย่างละห้าหรือสามชนิด พร้อมสุรา น้ำชา ข้าวสวย และกระดาษเงินกระดาษทองชนิดต่างๆ โดยจัดเรียงตามลำดับความสำคัญตามชนิดของอาหาร ซึ่งจะมีชื่อเรียกพ้องเสียงของคำมงคล และผลไม้ที่ขาดไม่ได้บนโต๊ะไหว้คือ ส้มมหามงคล สีทองที่ชาวจีนเรียกว่า ส้มไต่กิก เพราะหมายถึง ตวามสวัสดีมงคลอย่างยิ่ง

สรรพมงคลในของไหว้

กล้วย หมายถึง กวักโชคลาภเข้ามา และขอให้มีลูกหลานเต็มบ้านเต็มเมือง, แอปเปิ้ล-ความสันติสุข สันติภาพ, สาลี่-โชคลาภมาถึง (ควรระวัง ไม่นิยมไหว้บรรพบุรุษและวิญญาณไร้ญาติ), ส้มสีทอง-ความสวัสดีมหามงคล, องุ่น-ความเพิ่พูน, ไก่-ความสง่างาม ขุนนาง ยศ และ ความขยันขันแข็ง ความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน, เป็ด-สิ่งที่บริสุทธิ์ ความสะอาด ความสามารถอันหลากหลาย, ปลา-เหลือกินเหลือใช้ อุดมสมบูรณ์, หมู-ความอุดมสมบูรณ์ มีกินมีใช้, ปลาหมึก-เหลือกินเหลือใช้ (เหมือนปลา)

ขนมเข่ง-ความหวานชื่นชีวิตมีความราบรื่น รูปลักษณ์มีความหมายของชะลอมเก็บของ เมื่อรวมกันกับความหวานชื่น จึงมีความหมายว่า ความหวานชื่นอันสมบูรณ์, ขนมถ้วยฟู-ความเพิ่มพูน เฟื่องฟู เช่นเดียวกับ ขนมสาสี่ ขนมเทียน-ไม่ไช่ขนมของชาวจีนดั้งเดิม แต่เป็นขนมชาวจีนโพ้นแผ่นดินดัดแปลงจากขนมท้องถิ้น (ของไทย) จากขนมใส่ใส้ เปลี่ยนจากแป้งข้าวเจ้าผสมกระทิเป็นแป้งข้าวเหนียว จึงมีความหมายเดียวกับขนมเข่ง คือความหวานชื่นราบรื่น ส่วนรูปลักษณ์สามเหลี่ยมกรวยแหลม มีลักษณะมงคลในทางศาสนา คือ เจดีย์ และ จันอับ (จั๋งอั๊บ)-ปิ่นโต....(จั๋งหมายถึงชั้น, อั๊บ หมายถึงกล่อง) ความหมายรวมของ จั๋งอั๊บ คือ ความหวานที่เพิ่มพูน มีความสุขตลอดไป...........

ขอกราบขอบพระคุณ อาจารย์วิศิษฎ์ เตชะเกษม ผู้ศึกษาค้นคว้าวัฒนธรรมจีนชื่อดังของเมืองไทย ที่เอื้อเฟื้อข้อมูลดีๆ

15 มกราคม 2552

คลองปลากั้ง



......สวัสดีปีใหม่ครับ....พี่น้อง(คงยังไม่สายไปนะ) Trip นี้ได้มีโอกาศไปเที่ยวที่ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา เมื่อช่วงปีใหม่นี้เอง เนื่องจากพิษของโรค Hamberger จากฝั่งมะกันโน่นจนทำให้ครอบครัวผมต้องเปลี่ยนจากการไปเที่ยวภาคเหนือต้องOKที่วังน้ำเขียวแทน สถานที่ที่มีอากาศบริสุทธิ์ ระดับโอโซนอยู่ในอันดับ 7 ของโลก ซึ่งก็ไม่ไกลจากกรุงเทพเลย โดยใช้เส้นทาง 304 ผ่านฉะเชิงเทรา กบินทร์บุรี มุ่งหน้านครราชสีมา ช่วงนี้อากาศดีมีสถานที่น่าเที่ยวมากมาย (สมกับเมืองไทยไม่ไปรู้)



อุทยานแห่งชาติทับลาน อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เขาสลักได เขาแผงม้า ผาเก็บตะวัน อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง คลองปลากั้ง ขญ 4 ศูนย์ท่องเที่ยวเชิงเกษร ฟาร์มเห็ดหอม ไร่องุ่น สวนดอกไม้ น้ำตกอีกมากมาย มีกิจกรรมให้ทำอีก เช่น พายเรือ ดูนก ถีบจักรยาน เดินป่า ส่องสัตว์ ดูกระทิง.... ที่พักก็สะดวกสบายมีรีสอร์ทให้เลือกมากมายหรือชอบแบบลุยๆก็มีสถานที่กางเต้นท์ไว้บริการไว้อีกหลายแห่ง เช่น เขาแผงม้า คลองปลากั้ง ทับลาน สวนห้อม ริมอ่างลำพระเพลิง รีสอร์ทต่างๆ ........ต้องขอขอบพระคุณ พันตำรวจโท ศักดิ์ศิลป์ เทพกลาง หรือ ลุงอ้วน ที่ส่งเด็กๆมาให้ข้อมูลการท่องเที่ยว อ.วังน้ำเขียวอย่างละเอียด ที่ศูนย์เรียนรู้การท่องเที่ยวบ้านบุเจ้าคุณ โทรศัพท์ 0898386022



......ผมกับครอบครัวเลือกกางเต้นท์ที่ คลองปลากั้ง ขญ4 สถานที่กว้างขวางมีที่ให้เด็กวิ่งเล่นได้สบายๆ ห้องน้ำก็ OK เจ้าหน้าที่ป่าไม้ก็ใจดีทุกท่าน ให้ความรู้ความกระจ่างได้ดีมาก ผมกางเต้นท์เสร็จเกือบ บ่าย 3 โมง เจ้าลูกชายผมเอาการบ้าน kumon มาทำดัวย ส่วนผมก็อ่านหนังสือที่เตรียมไปดัวย แม่บ้านก็จัดการกับเสบียงที่เตรียมมา สักพักก็มีครอบครัวหนึ่งกำลังช่วยกันกางเต้นท์อยู่อย่างขมักขเม้นและแสงก็กำลังดีก็เลยเป็น ปาปารัชซี่จำเป็นเสียเลย(ทราบภายหลังว่าพี่ พิษณุนำทีมมาจาก ปากน้ำ พอรุ่งขึ้นพี่ พิษณุก็ขึ้นเขาใหญ่กันตั้งแต่เช้า )พอ 4 โมงเย็นอาทิตย์จะลับทิวเขาใหญ่ไปหลังจากอาบน้ำ กินอาหารค่ำแล้วหาเศษไม้มาก่อไฟ(ในเตา)แก้หนาวกันพอเที่ยงคืนก็มีเสียงพลุ มีโคมลอย เสียงไชโยมาเป็นระยะๆ พร้อมกับเสียงข้อความของโทรศัพท์ดังแว่วๆจากเต้นท์ใกล้ๆ
เช้าวันแรกของปี52 ท้องฟ้ามีเมฆมากเป็นพิเศษแต่อากาศดีมาก วันนี้ได้ออกเดินป่าบริเวณข้างๆอุทยานกับลูกชายออกไปกินข้างอ่างเก็บน้ำ หากาแฟกินที่ไร่องุ่น ผมได้คุยกับคนท้องที่ก็ทราบว่าที่ดินบริเวณนี้ถูกนายทุนซื้อเก็บไว้หมด ซื้อภูเขาเป็นลูกๆ 40 ล้านกว่าเอง...!!!!!


เดินป่า.....พักเหนื่อย


ดินโป่ง ที่สัตว์ต่างๆรวมทั้งกระทิงด้วยออกมากินเพื่อเพิ่มสารอาหาร

หอดูสัตว์
ที่นี่มีกิจกรรมหลายอย่างมาก อาทิ ดูนก เดินป่ามี 3 แบบให้เลือก 16.00-18.00 ดูกระทิงที่หอ ถ้าจะส่องสัตว์ต้อง 1 ทุ่มจะมี มัคคุเทศคอยให้คำแนะนำว่าการดูกระทิงควรจะ ไม่ส่งเสียงดัง ไม่ใส่น้ำหอม ไม่เอาเครื่องดืมหรืออาหารเข้าไปในบริเวณ ไม่แต่งตัวสีฉูดฉาด แต่วันนี้ผมก็ผิดหวังเหมือนกัน เพราะมีทุกอย่างที่เขาห้าม เจ้าหน้าที่บอกว่าต้องเป็นฤดูร้อนจะมีโอกาศเห็นกระทิงได้มากกว่า
ที่ระลึก...คลองปลากั้ง

เปิดงานดอกเบญจมาศบาน

ผักสดจากแปลงปลูก

สีสัน

ที่ระลึก,ของฝาก

แชะ.........ก่อนกลับบ้าน......สวัสดีครับ พบกันTripหน้า......

"Just pick only photograph,just leave only memory"