กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า ให้ลองถามตัวเองด้วยคำถาม 15 ข้อดังต่อไปนี้...
- รู้สึกจิตใจหม่นหมอง(เกือบตลอดทั้งวัน)หรือไม่
- รู้สึกเป็นทุกข์จนอยากร้องไห้
- รู้สึกหมดอาลัยตายอยาก
- รู้สึกไม่มีความสุข หมดสนุกกับสิ่งที่เคยชอบและเคยทำ
- รู้สึกผิดหวังในตนเอง และโทษสิ่งที่เกิดขึ้น
- รู้สึกอยากอยู่คนเดียวไม่อยากสุงสิงกับใคร
- รู้สึกตนเองไม่มีคุณค่า
- คิดอะไรไม่ออก
- หลงลืมง่าย
- คิดอะไรได้ช้ากว่าปกติ
- ทำอะไรอืดอาด เชื่องช้ากว่าปกติ
- รู้สึกอ่อนเพลียง่ายเหมือนไม่มีแรง
- รู้สึกเบื่ออาหาร กินได้น้อยกว่าเดิม
- นอนหลับๆตื่นๆนอนหลับไม่สนิท 15. รู้สึกสูญเสียความเชื่อมั่นในตนเอง
ถ้ามีคำตอบตั้งแต่ 6 ข้อขึ้นไป หมายถึงมีภาวะซึมเศร้า ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ หรือพบแพทย์ ขณะที่คนใกล้ชิดต้องคอยสังเกตด้วย โรคซึมเศร้าเป็นโรคหนึ่งที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน สาเหตุที่จะกระตุ้นอาการป่วยคือ ความเสี่ยงทางพันธุกรรม สภาพจิตใจ และเผชิญกับสถานการณ์เลวร้าย.......ลักษณะของคนป่วย มักจะชอบแยกตัวอยู่คนเดียว ย้ำคิดย้ำทำ เชื่องช้า ซึม เก็บตัว ชอบพูดเปรยว่าถ้าไม่มีเขาอะไรคงจะดี และพูดสั่งเสียอยู่เรื่อยๆ
ผู้ป่วยจะมีอาการหนักราว 2-3 เดือน ถือเป็นช่วงอันตรายที่สุด เพราะมีโอกาศคิดสั้นฆ่าตัวตายสูงมาก หากมีเรื่องกระทบจิตใจเพียงนิดเดียว แต่ถ้าพ้นช่วงนี้ไปได้ก็จะกลับสู่ภาวะปกติ อาการของโรคจะกำเริบเมื่อไหร่ไม่มีใครรู้ล่วงหน้า บางคน 1-2 ปี บางคนเพียง 6เดือน แต่ถ้ารู้ว่าตัวเองป่วยก็สามารถรักษาให้หายได้ด้วยการเข้าพบจิตแพทย์และกินยาตามแพทย์สั่ง.......มีผู้ที่ฆ่าตัวตายมากถึงร้อยละ 60 ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า โดยคนที่เป็นโรคนี้เมื่อประสบกับความผิดหวังหรือปัญหาชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องครอบครัว ความรัก หรือการศึกษา ผู้ป่วยจะคิดฆ่าตัวตายได้ง่ายกว่าคนปกติ 3 เท่าจากการสำรวจประชากรไทยป่วยเป็นโรคซึมเศร้าถึงร้อยละ 5 หรือกว่า 3 ล้านคน ยังไม่รวมถึงคนที่ไม่รู้ตัวเองว่าป่วย และโรคนี้มีการถ่ายทอดทางพันธุกรรมจากพ่อแม่สู่ลูกอีกด้วย
เมื่อตรวจสมองจะพบความผิดปกติของสารเคมีชื่อ เซโรโทนิน มีปริมาณลดลง ทำให้รู้สึกท้อแท้ หงอยเหงา เบือหน่าย ไม่สนุกสนานกับชีวิต นอนไม่หลับ สะดุ้งตื่นกลางดึก ฝันร้ายบ่อยๆ ส่งผลกระทบให้ความสามารถในการทำงานลดลงการเลี้ยงดูก็มีส่วน คนที่ขาดความภูมิใจในตนเอง มองตนเองและโลกในแง่ลบตลอดเวลา หรือเครียดง่ายเมื่อเจอมรสุมชีวิต ทำให้มีโอกาสป่วยง่ายขึ้นการช่วยเหลือด้านจิตใจเบื้องต้น เนื่องจากผู้ป่วยมีแนวคิดในแง่ลบมองว่าตนเองอาการหนัก เป็นโรคที่รักษาไม่หาย ไม่มีใครเป็นแบบตน ในปัจจุบันโรคนี้รักษาหายได้ด้วยการใช้ยา การรักษาทางจิตใจ หรือทั้งสองอย่างร่วมกัน
......ต้องการคำปรึกษา โทร. 1667 สายด่วนกรมสุขภาพจิต........